วันอังคารที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2552

งานครั้งที่ 6 โฆษณาการแสดงคอนเสิร์ตของ 1 ศิลปินเพลงบนเว็บไซต์


1.ชื่อวง *2PM*

2.ข้อมูลเบื้องต้น
“2PM” เป็นวงน้องใหม่แกะกล่อง ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในแดนกิมจิ แต่กว่าที่พวกเขาจะก้าวเข้ามาโลดแล่นในวงการบันเทิงได้นั้น ต้องผ่านการฝึกฝนมาอย่างหนัก โดยพวกเขาได้รับคัดเลือกเข้ามาเป็น 1 ใน 13 คน ที่ผ่านการออดิชั่นมาจากทั่วประเทศ จากนั้นก็ต้องเข้าคอร์สฝึกอบรมทั้งการร้อง เล่น เต้น ซึ่ง หลังจากผ่านการฝึกฝนอันเข้มข้นก็ใช่ว่าทั้ง 13 คน จะได้ผ่านเข้ามาในวงการบันเทิง เพราะต้องถูกคัดออกไปอีก 2 คน ให้เหลือเพียง 11 คน ซึ่ง 4 คน ที่เชี่ยวชาญในด้านเพลงจะถูกส่งไปเดบิวในชื่อ “2AM” ส่วนอีก 7 คนเชี่ยวชาญในด้านการเต้น ก็จะได้เดบิวในชื่อวง “2PM” ซึ่งสมาชิก 7 คนของ "2PM" ประกอบด้วย...


ชื่อ – สกุล : Park Jaebeom
วันเกิด : 25 เมษายน 1987 (พ.ศ. 2530)
ตำแหน่ง : Rapper, นักร้อง
ภาษา : อังกฤษ / จีน
การศึกษา : Dankook University
น้ำหนัก : 55 กิโลกรัม
ส่วนสูง : 175 เซนติเมตร


ชื่อ – สกุล : Kim Junsu
วันเกิด : 15 มกราคม 1988 (พ.ศ. 2531)
ตำแหน่ง : นักร้อง
ภาษา : จีน / อังกฤษ
การศึกษา : Donga School for the Arts
น้ำหนัก : 73 กิโลกรัม
ส่วนสูง : 178 เซนติเมตร

ชื่อ – สกุล : Ok Tae Cyeon
วันเกิด : 27 ธันวาคม 1988 (พ.ศ. 2531)
ตำแหน่ง : Rapper, นักร้อง, นายแบบ
ภาษา : จีน / อังกฤษ
การศึกษา : Dankook University
น้ำหนัก : 76 กิโลกรัม
ส่วนสูง : 185 เซนติเมตร

ชื่อ – สกุล : Nichkhun Horvejkul (คุณ - นิชคุณ หรเวชกุล หนุ่มน้อยหน้าใสจากประเทศไทย)
เกิด : 24 มิถุนายน 1988 (พ.ศ. 2531)
ตำแหน่ง : นักร้อง, นายแบบ, นักแสดง
ภาษา : เกาหลี / จีน / อังกฤษ / ไทย
การศึกษา : Los Osos High School (USA)
น้ำหนัก : 61 กิโลกรัม
ส่วนสูง : 181 เซนติเมตร

ชื่อ – สกุล : Jang Wooyoung
วันเกิด : 30 เมษายน 1989 (พ.ศ. 2532)
ตำแหน่ง : นักร้อง
ภาษา : จีน
การศึกษา : Seoul School for the Arts (Dance Major)
น้ำหนัก : 65 กิโลกรัม
ส่วนสูง : 178 เซนติเมตร

ชื่อ – สกุล : Lee Junho
วันเกิด : 25 มกราคม 1990 (พ.ศ. 2533)
ตำแหน่ง : นักร้อง
ภาษา : จีน
การศึกษา : Ho Won University (Program acting Major)
น้ำหนัก : 64 กิโลกรัม
ส่วนสูง : 178 เซนติเมตร

ชื่อ – สกุล : Hwang Chansung
วันเกิด : 11 กุมภาพันธ์ 1990 (พ.ศ. 2532)
ตำแหน่ง : นักร้อง, นายแบบ, นักแสดง
ภาษา : จีน
น้ำหนัก : 72 กิโลกรัม
ส่วนสูง : 182 เซนติเมตร

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้พวกเขาจะสามารถผ่านการออดิชั่นมาได้แล้ว แต่พวกเขาก็ต้องฝึกฝนทักษะด้านการเต้นที่หนักขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเต้นแบบบีบอย หรือแบบอาโครบาติก (ผาดโผน) เพราะ JYP Entertainment ต้นสังกัด ต้องการคนที่เชี่ยวชาญในด้านการเต้นอย่างแท้จริง โดยทำการเปิดตัวในรายการ Hot Blood Man ทางช่อง Mnet จนได้รับเสียงกรี๊ดและกระแสตอบรับอย่างท่วมท้น อาจเป็นเพราะหน้าตาใสๆ หล่อๆ และประโยคเด็ดๆ ที่ว่า … ถ้าผมไม่สามารถทำวงบอยแบนด์วงใหม่ ให้แตกต่างจากบอยแบนด์ทั่วไปในยุคนี้ได้ ผมคงจะไม่เปิดตัวออกมาอย่างแน่นอน! … บวกกับความสามารถด้านการเต้นที่ขนมาเอาใจแฟนเพลง ทำให้พวกเขากลายเป็นขวัญใจสาวน้อยสาวใหญ่ได้ไม่ยาก


คอนเสริต์"2PM Oly you winter specail" วันเสาร์ที่ 9 มกราคม 2553 ณ siam paragon hall ชั้น 5 เวลา 17.00 น.เป็นต้นไป ราคาบัตร 3,999 - 2,999 - 1,999 เเละบัตรด้านหลังสุด 1,000 บาท สนใจติดต่อที่ thai ticket masterทุกสาขา โทร (02)-6852210-6,(02)-9458659-4


3.กลุ่มเป้าหมาย : นักเรียน นักศึกษา เยาวชน วัยรุ่น และประชาชนทั่วไป (ชาย,หญิง)

4.Concept : "2PM Oly you winter specail"


5.Mod&tone

มีความสุข, เคลิ้ม, ชวนฝัน


มันส์ๆ


สนุกสนาน


+++++++++++++++********+++++++++++++++++


(PROJECT 2) สื่อป้ายโฆษณา* งานครั้งที่ 6
ตัวอย่างกรณีศึกษา สื่อป้ายโฆษณาบนเว็บ ( web Banner )
คือรูปแบบหนึ่งของโฆษณาบนเวิลด์ไวด์เว็บ เป็นการวางภาพโฆษณาลงบนหน้าเว็บแล้วทำลิงค์ กลับไปยังเว็บไซต์ที่โฆษณา ด้วยจุดประสงค์เพื่อดึงดูด ผู้เข้าชมให้เข้าไปยังเว็บ ไซต์ที่โฆษณานั้นผ่านการคลิก เว็บแบนเนอส์ สร้างขึ้นจากไฟล์รูปภาพ ทั้วไปเช่น GIF JPG PNG หรือใช้จาวาสคริปส์ เชื่อมโยงเทคโนโลยี
มัลติมีเดียอย่างอื่น เช่น แฟลช ข้อความ จาวา หรือซิลเวอร์ไลต์ เป็นต้น และอาจมีการใช้ภาพเคลื่อนไหว เสียง หรือวีดีโอ มาผสมผสานเพื่อนำเสนอโดดเด่นมากที่สุด

การสร้างสรรค์ผลงาน
เนื้อหาที่ต้องการสื่อในเว็บแบนเนอส์ ก็คล้ายกับป้ายโฆษณาในชีวิตจริง คือการโฆษณาประชาสัมพันธ์ ให้ลูกค้า หรือคนอื่นทั่วไปพบว่ามีสินค้าหรือบริการอะไรในปัจจุบัน เพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้า

ขนาดแบนเนอร์ ที่เป็นที่นิยม
728*90 Pixel : Leader board
เป็นแบนเนอร์ขนาดนิยม ขนาดใหม่ สามารถแสดงข้อมูลสินค้าและบริการได้มาก

ตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุด
ด้านบนถัดลงมา

องค์ประกอบที่ใช้ในการออกแบบแบนเนอร์ มี 6 ชนิด ได้แก่
1. พาดหัว
2. ข้อความโฆษณา
3. ภาพประกอบ
4. สัญลักษณ์ของผู้โฆษณา
5. สี
6. * การเคลื่อนไหวและการใช้เสียงประกอบ

หลักการออกแบบแบนเนอร์ที่ดีได้แก่
1. ตัวอักษร
2. สัญลักษณ์
3. ภาพประกอบ
4. สี
5. การจัดวาง

1. ตัวอักษร
* ขนาดและสัดส่วน ที่เหมาะสม โดยประมาณ
พาดหัว 48 pt
ข้อความ 32 pt

*รูปแบบเหมาะสม
สอดคล้องกับบุคลิก
(mood & tone )

* รูปแบบไม่ควรเกิน 2-3 แบบ
2. สัญลักษณ์
* ควรกำหนดขนาด
ให้เด่นหรือด้อย

3. ภาพประกอบ
*ควรใช้ภาพกราฟิก ในการออกแบบมากกว่าภาพถ่าย เนื่องจาก ขนาดของไฟล์ ของภาพลายเส้น (GIF) เล็กกว่าโหลดได้เร็วกว่ากับโฆษณา

4. สี
* ระบุค่าสีในระบบ RGB 216 สี
* พื้นหลังและตัวอักษรควรใช้สีตัดกันให้เด่นชัด
* จับคู่สีให้เหมาะสม ไม่ควรเกิน 2-3 สี

วันเสาร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2552

งานครั้งที่3

***1. การปรับแต่งภาพกราฟิก***

ภาพที่ได้จากกล้องดิจิตอลเป็นไฟล์กราฟิกประเภทหนึ่งในระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งเรียกว่า ไฟล์ภาพแบบ "บิทแมพ" (Bitmap) คุณสมบัติทีสำคัญของไหล์ประเภทนี้คือประกอบขึ้นจากจุดสี ขนาดเล็กจำนวนมากที่เรียกว่า "พิกเซล" (Pixel) เรียงตัวกันเป็นรูปตาราง เนื่องจากจุดสีเหล่านี้เล็กมากเมื่อเรามองแบบรวม ๆ จึงเห็นเป็นภาพถ่ายที่มีการไล่ระดับสีสมจริงเหมือนธรรมชาติ การปรับภาพให้คมชัด (Unsharp Mask) Photoshop สามารถปรับภาพที่เบลอให้คมชัดขึ้นได้ แต่คำสั่งนี้จะให้ผลดีในระดับหนึ่งเท่านั้น เพราะถ้าปรับมากเกินไปจะทำให้เห็นขอบวัตถุในภาพเป็นเส้นหรือรัศมีอย่างชัดเจนจนดูไม่สมจริง
เลือกคำสั่ง Filter>sharpen>Unsharp Mask การใช้ Filter Gallery เปนเครื่องมือที่ช่วยให้เราใส่กราฟิกให้กับภาพได้ครั้งละหลายตัวโดยไม่ต้องทำทีละคำสั่ง มีภาพตัวอย่างแสดงให้เห็นผลลัพธ์ของฟิลเตอร์ทั้งหมดทันที และสามารถปรับแต่งอ๊อฟชั่นหรือสลับลำดับของฟิลเตอร์ได้เครื่องมือนี้จะช่วยให้การสร้างเอฟเฟ็คต์พิเศษที่จ้องใช้ฟิลเตอร์หลายตัวประกอบกันสะดวกรวดเร็วขึ้นมาก
การเปิด Dry Brush ทำได้ 2 วิธี คือ
1. เปิดจากคำสั่ง Filter>Filter Gallery กรณีนี้ฟิลเตอร์ชุดเดิม ที่คุณเคยเลือกไว้ด้วยิธีนี้จะถูกเรียกกลับขึ้นมา
2. เปิดจากคำสั่งของฟิลเตอร์ใดฟิลเตอร์หนึ่งจะถูกจัดอยู่ใน Filter Gallery เช่น Filter>Artistic>Dry Brush จะถูกเรียกใช้ก่อน หลังงานนั้นคณสามารถเลือกฟิลเตอร์อื่น ๆ เพิ่มได้


***2. การตัดต่อและตกแต่งภาพหราฟิก***

เราอาจจะแต่งในภาพเพียงภาพเดียว หรือนำหลาย ๆ ภาพมาตกแต่งร่วมกัน โดยเลือกบางส่วนในแต่ละภาพมาประกอบกัน เราสามารถเลือกส่วนของภาพนั้นได้ด้วยเครื่องมือที่ชื่อ Marquee Tool ซึ่งเป็นเครื่องมือตัวแรกของชุดเครื่องมือ ประกอบด้วย Rectangle Maquee Tool สำหรับเลือกส่วนของภาพในแบบสี่เหลี่ยมตามที่ต้องการ สังเกตว่าที่เครื่องมือนี้จะมีเครื่องหมายสามเหลี่ยมอยู่ที่มุมล่างด้านขวา แสดงว่าจะมีเครื่องมือในแบบเดียวกันซ่อนอยู่ด้วย โดยเราสามารถเรียกใช้ด้วยการคลิกเมาส์ค้างๆว็ ก็จะปรากฎเครื่องมือต่าง ๆ ที่อยู่ในชุดนี้ขึ้นมา Elliptical Maquee Tool ใช้สำหรับเลือกส่วนของภาพในแบบวงกลมหรือวงรีตามที่ต้องการ Single Row Maquee Tool ใช้สำหรับเลือกส่วนของภาพในแบบ 1 พิกเซล ตามแนวนอน Single Column Tool ใช้สำหรับเลือกส่วนของภาพในแบบ 1 พิกเซล ตามแนวั้งย้ายส่วนของภาพ เมื่อเลือกส่วนของภาพได้แล้ว เราจำเป็นที่ต้องมีการเคลื่อนย้ายส่วนของภาพนั้น ซึ่งเป็นหน้าที่ของเครื่องมือ Move Tool สำหรับเคลื่อนย้ายภาพหรือส่วนของภาพที่เราต้องการ ไปยังตำแหน่งใหม่ หรือไปตกแต่งร่วมกับภาพอื่น การใช้งานเพียงแค่คลกเมาส์ที่ส่วนนั้น แล้วลากไปปล่อยทั้งในตำแหน่งที่ต้องการเลือกส่วนของภาพแบบอิสระ หรือตามรูปร่างของบริเวณภาพที่ต้องการ ซึ่งเราสามารถเลือกได้ด้วยเครื่องมือ Lasso Tool โดยเครื่องมือชุดนี้ จะประกอบด้วยเครื่องมือ 3 ตัว ด้วยกัน คือ Lasso Tool สำหรับเลือกส่วนของภาพแบบอิสระ ด้วยการคลิกเมาส์ค้างไว้ แล้วลากคลุมบริเวณที่เราต้องการ จนแนวเส้นการลากมาบรรจบกันอีกครั้ง ก็จะได้ขอบเขตการเลือกภาพที่ต้องการ สามารถใช้เครื่องมือ Move Tool ในการย้ายเพื่อตกแต่งไปได้ Polygonal Lasso Tool สำหรับเลือกส่วนของภาพอิสระ เช่นเดียวกับ Lasso Tool แต่เป็นการเลือกแบบทีละจุดไปเรื่อย ๆ ด้วยการคลิกเมาส์ที่จุดแรก แล้วปล่อย แล้วจึงค่อยคลิกที่จุดต่อ ๆ ไป จนแนวเส้นที่คลิกมาบรรจบกันอีกครั้ง Magnetic Lasso Tool สำหรับเลือกส่วนของภาพแบบอิสระ เช่นเดียวกับ Lasso Tool แต่เป็นการเลือกแบบเช้กค่าสีของภาพ เราเพียงแค่คลิกเมาส์ที่จุดแรกแล้วปล่อย จากนั้นลากเมาสืไปเรื่อย ๆ ให้ใกลกับบริเวณที่เราต้องการ เครื่องมือนี้จะไล่ไปตามขอบเขตอัตโนมัติ แบบแม่เหล้ก ทำให้การเลือกภาพทำได้ง่ายและรวดเร็ว
***3. การใช้งานเลเยอร์***
เป็นเหมือนการวางแผ่นใส่ ซ้อนทับกันเป็นลำดับขั้นขึ้นมาเรื่อย ๆ ดดยแต่ละแผ่นใส เปรียบเสมือนเป็นแต่ละเลเยอรื บริเวณของเลเยอรืที่ไม่มีรูป จะเห็นทะลุถึงเลเยอร์ที่อยุ่ข้่งล่าง โดยกระบวนการเช่นนี้ จะทำให้เกิดเป็นรูปภาพสมบูรณ์ และทำให้เราสามารถจัดวางงานได้ ง่าย การใช้งาน Layers Palette เป็นศูนย์รวมของเลเยอรทั้งหมด ที่มีอยู่ในภาพ โดยเรียงตามลำดับ จากเลเยอร์ที่อบู่บนสุดไปจนถึงเลเยอรืที่อยู่ล่างสุด มี Scoolbar เลื่อนขึ้นลงเพื่อดูเลเยอรืต่าง ๆ แต่ละเลเยอรืจะมีชื่อของเลเยอร์นั้น ๆ อยู่ นอกจากนี้ Layers Palette ยังเป็นเหมือนตัวควบคุมลักษณะการใช้งานของเลเยอร์ทั้งหมด เราสามารถเรียก Layers Palette ขึ้นมาใช้งาน โดยการใช้คำสั่ง Window>Show Layers ที่แถบเมนู Active Layer ในการใช้งานโปรแกรม Photoshop นั้นแม้ประกอบไปด้วยเลเยอร์หลายเลเยอร์ แต่เราจะทำงานได้เพียงทีละเลเยอร์เท่านั้น เลเยอร์ที่เรากำลังทำงานอยู่ เราเรียกว่า Active Layer ซึ่งใน Layers Palette จะปรากฎเป็นแถบสีน้ำเงิน และมีไอคอนปรากฎอยู่ในช่องแสดงสถานะของเลเยอร์ เช่น แสดงวากำลังทำการปรับแต่ลเลเยอร์อยู่หรือเป็นการเพิ่มเลเยอร์ Mask ให้กับเลเยอร์นั้น การเปลี่ยนการทำงานไปในเลเยอร์ต่าง ๆ เราสามารถเรียกเลเยอรืใดทำงานได้ โดยการเลื่อนเมาส์ ไปที่เลเยอร์ที่ต้องการ ตัวชี้เมาส์จะเปลี่ยนเป็นรูป และ Click Mousr ที่แถบของเลเยอร์นั้น เลเยอร์นี้นจะกลายเป็น Active Layer โดยทันที การซ่อนการแสดงเลเยอร์ภาพ ภาพหนึ่งจะประกอบไปด้วย เลเยอรืหลายเลเยอร์ ในบางครั้งหากเราต้องการปิดบางเลเยอร์ ไม่ให้มองเห็นก่อน เพื่อความสะดวกในการทำงาน โดยที่ไม่ได้ลลเลเยอร์นั้นทิ้ง
เราสามารถสั่งให้มีการซ่อน และแสดงเลเยอร์ได้ โดย
1. ซ่อนเลเยอรืโดย Click mouse เพื่อซ่อนเลเยอร์ ซึ่งช่องสถานะนั้นจะเปลี่ยนเป็น
2. ผลลัพธ์ที่ได้ คือ เลเยอร์ Mushroom จะหายไป
3. แสดงเลเยอร์โดย Click mouse อีกครั้งหนึ่ง เพื่อแสดงเลเยอร์ ชอ่งสถานะจะเปลี่ยนเป็นกลับมา
4. ผลลัพธ์ที่ได้ เลเยอร์ Moshroom จะปรากฎขึ้นอีกครั้ง
5. ซ่อนและแสดงหลาย ๆ เลเยอรืพร้อมกัน โดยการ Drag mouse ผ่านช่องสี่เหลี่ยมต่าง ๆ
6. ผลลัพธ์ที่ได้ เลเยอร์ Vegetable, Gevi, Orange และ Mushroom จะหายไป
***4. การวาดภาพและระบายสี***
การใช้ Brush Tool
1. เสือกสีของพู่กัน
2. เลือกขนาดและลักษณะของหัวพู่กัน
3. กำหนดอ๊อฟชั่นต่าง ๆ (โดยการใช้ F5)
4. คลิกภาพวาดตามที่ต้องการ
ส่วนการใช้ Pencil ก็มีรูปแบบการใช้งานที่คล้ายกับ Brush Tool โดยใช้คิำสั่ง Paint Bucket Tool
1. Selection เลือกพื้นที่ภาพที่เราต้องการเติมสี
2. Click Mouse ที่ไอคอน
3. Click Mouse ที่ Foreground Color เพื่อเลือกสีที่จะเติม
4. ปรับค่าสีที่จะเติมในภาพด้วย Tool Options bar โดยมีรายละเอียดต่าง ๆ เลือกสีที่ใช้เติม ได้แก่ Foreground ใช้สีเดียวกับ Foreground color Pattern เติมภาพด้วยลวดลาย การไล่โทนสีภาพโดยใช้คำสั่ง Gradient Tool
การใช้คำสั่ง Gradient Tool
1. เลือกพื้นที่ที่ต้องการเทสีภาพ ในที่นี้คือ พื้นที่ที่เป็นเส้นประสี่เหลี่ยม
2. Click Mouse ที่ไอคอน Gradient Tool
3. Click Mouse เลือกรูปแบบไล่โทนสีที่ Tool Options bar
4. Drag Mouse จากจุดเริ่มต้นไปยังจุดปลาย ตามตำแหน่งที่เราต้องการแล้วปล่อยเมาส์ จุดที่เริ่มกดเมาส์
ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้น จุดที่ปล่อยเมาส์ถือว่าเป็นจุดปลาย
การแสดงการไล่สี มี 5 รูปแบบ
1. Unear Gradtent Tool การไล่โทนสีในแนวเส้นตรง
2. Radial Gradient การไล่โทนสีตามรัศมีของวงกลม
3. Angular Gradient การไล่โทนสีแบบการวาดจามการหมุนของเข็มนาฬิกา
4 Reflected Gradient การไล่โทนสีแบบภาพสะท้อน
5. Diamond gradient การไล่โทสีแบบประกายแสงของเพชร
***5. การสร้างตัวอักษรและข้อความ***
การพิมพ์ตัวอักษรหรือทำตัวอักษรศิลปืก็คล้ายกับการพิมพ์ลงในโปรแกรม Word หรือ Excel นั้นแหละ มีการกำหนดฟอนด์อักษร เลือกสไตล์ ขนาด การจัดกลาง การกำหนดสีหรือแม้กระทั่งการบิดข้อมความทำให้เป็นรูปร่างต่าง ๆ คงไม่ใช่เรื่องยาก เริ่มเปิดไฟลืภาพที่เคยบันทึกไว้ แล้วคลิก Horizontal type Tool ที่กล่องเครื่องมือ สังเกตที่มุมขวามือล่างที่พาเล็ต Leyer จะเกิด Leyer ใหม่ขึ้นมาเป็นรูปตัวคลิกที่ภาพเมาสืจะกลายเป็นรูเคอเซอร์กระพริบ ให้พิมพ์ตัวอักษรลงไปอะไรก็ได้ ถ้าจะปลี่ยนขนิดตัวอักษรก็คลิกเมาส์ที่ตัวอักษรแล้วลากคลุมดำทุกตัว เปลี่ยนฟอนด์ตัวอักษณและอื่น ๆ ได้ที่แถบอ๊อฟชั่นบาร์ ด้านบนต้องการเปลี่ยนรูปร่างของข้อความคลิกที่ Warp Text เลือก Style จามที่ต้องการ หากตัวอักษรที่ได้ไม่กลางหรือต้องการจะปรับขนาดใหม่ ให้คลิกที่ Edit>Free Transform คลิกเมาส์ค้างไว้แล้วลากไปวางยังตำแหน่งที่ต้องการ หากต้องการยืด หด ให้นำเมาส์มาชี้บริเวณมุมกรอบรอบตัวอักษรเมาส์จะเป็นรูปที่๕ลิกค้างแล้วลาก ต้องการหมุนตัวอักษรเอียงใช้เมาส์ชี้ที่มุมกรอบรอบตัวอักษรห่างจากรอบพอประมาณ เมาสืจะกลายเป็นรูป คลิกเมาสืค้างไว้แล้วหมุนกำหนดเอฟเฟ็คต์ให้ตัวอักษร คลิกเลือกเลเยอร์ตรงที่เราพิมพืข้อความลงไป ให้เป็นสีน้ำเงิน เลือก พาเล้ต Style เลือกรุปแบบสไตล์ที่โปรแกรมสร้างไว้ได้เลย หรือหากต้องการเอฟเฟ็คต์เพิ่มเติม ให้คลิกที่ปุ่ม Add a layer style เลือกทำเครื่องหมายถูกหน้าสไตล์ที่ต้องการ

วันอังคารที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2552

งานชิ้นที่ 5 Concept











"ยาหม่องตัวถ้วยทอง มิตรคู่เรือนเพื่อนคู่ตัว"

วันจันทร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ชิ้นงานที่ 4 เทคนิคการนำเสนอ

1. ภาพอุปมา
2. ภาพการใช้ภาพเหนือจริง
3. การสร้างความผิดปกติจากของจริง
4. การรวมกันของ2สิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกัน
5. การใช้มุมกล้อง
6. การล้อเลียน
7. การใช้ภาพขนาดไม่ปกติ




แนวคิดเกี่ยวกับการสร้างสรรค์งานโฆษณา
การสร้างสรรค์งานโฆษณาให้ประสบผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์นั้นต้องขึ้นอยู่กับ
1. การวางเเผนกลยุทธ์ในการสร้างสรรค์
2. การนำเสนอความคิดสร้างสรรค์ในงานโฆษณา
3. การสร้างสรรค์ผลงานให้โดดเด่นมีประสิทธิภาพเเละเหมาะสม

Execution หมายถึง การเเปลงเนื้อหาในงานโฆษณาให้เป็นภาพที่เกี่ยวข้องกับคอนเซป ประกอบด้วย
1. องค์ประกอบของการสร้างสรรค์งานโฆษณา
2. รูปแบบการนำเสนอภาพโฆษณา

องค์ประกอบของการสร้างสรรค์งานโฆษณา ด้านเเนวคิด ลีลา จุดเว้าวอน จุดขาย โดยอาศัยองค์ประกอบต่างๆที่เเบ่งได้เป็น2ส่วน คือ 1.) ส่วนที่เป็นคำพูด วัจนภาษา เป็นการใช้ถ้อยคำในการสื่อสารประกอบด้วย
1.1 พาดหัวหลัก
1.2 พาดหัวรอง
1.3 ข้อความโฆษณา
1.4 คำบรรยายใต้ภาพ
1.5 สโลเเกน
1.6 บรรทัดท้าย
1.7 ชื่อตราสินค้า

2.) ส่วนที่ไม่เป็นคำพูด อวัจนภาษา
2.1 ภาพประกอบ อาจจะมีภาพสินค้า ภาพวิธีการใช้สินค้า โดยไม่จำเป็นต้องเน้นเป็นภาพตัวสินค้าก้ได้
เเบ่งเป็น 3 ประเภท
2.1.1 ภาพถ่าย
2.1.2 ภาพลายเส้น
2.1.3 ภาพประกอบที่มีการรวมกันทั้งภาพถ่ายเเละภาพลายเส้น
2.2 การจัดภาพที่ดี มีความสมดุล มีจุดเด่น มีสัดส่วนที่ดี มีพื้นที่ว่างเหมาะสม
2.3 เครื่องหมายการค้า หรือ โลโก้ เป็นการเเสดงเอกลักษณ์ของสินค้า ใช้ภาพ ตัวอักษร หรือทั้งภาพเเละตัวอักษรก้ได้
2.4 ขนาด ให้เน้นว่าเน้นอะไร ขนาดภาพ ขนาดตัวอักษร
2.5 สี ใช้ขาวดำ สีดำ หรือ สีก็ได้ ขึ้นอยู่กับอารมณ์ความรู้สึกของภาพ ดดยต้องคำนึงถึงงบประมาณด้วย
2.6 ตัวอักษร สามารถใช้อารมณ์เเละบุคลิกของสินค้าได้เหมือนกัน

การหาภาพตามหลัก 7 ข้อ
1. การอุปมาทางการเห็น (การเปรียบเทียบ) ต้องมีอะไรมาเป็นตัวบ่งบอก หรื แฟงความในเเบบไม่โจ่งเเจ้ง
2. การใช้ภาพเหนือจริง การนำเรื่องราวที่คาดว่าจะไม่เป็นไปได้(ใช้สิ่งที่จริงหรือไม่จริงก็ได้)โดยให้สอดคล้องกับคอนเซปงาน
3. การสร้างความผิดปกติจากของจริง
4. การรวมกันเข้าของสองสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกัน
5. การใช้มุมกล้องเเทนสายตาผู้ดูหรือผู้ถ่าย
6. การล้อเลียน
7. ภาพที่มีขนาดไม่ปกติ

วันอังคารที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ครั้งที่ 2 เทคนิคการนำเสนองาน





1.ชื่อสินค้า smooth E BabyFace scrub
2.ข้อมูลเบื้งต้น สมูท อี เบบี้เฟส สครับโฟมสครับสูตรไม่มีฟอง ลดสิวเสี้ยน ควบคุมความมัน เพื่อผิวหน้าอ่อนเยาว์ โฟมสครับไม่มีฟอง ไร้สารตกค้าง จึงช่วยลดสิว และริ้วรอยอย่างได้ผล พร้อมกำจัดสิวเสี้ยน ด้วย Smooth Beads นำเข้าจากสวิสเซอร์แลนด์ เป็นเม็ดสครับที่กลม ละเอียด อ่อนโยนไม่บาดผิว หรือทำให้ รอยสิวช้ำเหมือน สครับทั่วไป และขจัดไขมัน อุดตันตามรูขุมขน พร้อมขจัดสิ่งสกปรก ที่ตกค้างได้อย่างล้ำลึก เผยผิวใหม่ ที่มีสุขภาพดีจน คุณรู้สึกถึง ความแตกต่างได้ทันที หลังการใช้เพียงครั้งแรก
swot
-จุดเเข็ง คือ เป็นโฟมที่ไม่มีฟอง ควบคุมความมันเเละ ช่วยลดเสี้ยวเสี้ยน
-จุดอ่อน คือ เป็น ราคาสินค้าข้อนข้างเเพง เพราะเกิดจากการลงทุนของสินค้าที่มีต้นทุนสูง
-โอกาส คือ สมูทอีจัดซีรี่ย์ภาพยนต์โฆษณาเรื่อง "The Love Story" ทั้งหมด 4 ตอน เพื่อต้องการสื่อความหมายเเละตอกย้ำภาพลักษณ์ของสมูทอี ไปยังลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย
-อุปสรรค สินค้ามีคู่เเข่งทางการตลาดหลากหลายเเบร์น
3.วัตถุประสงค์
-เพื่อลดสิวเสี้ยน
-เพื่อควบคุมความมัน
-เพื่อผิวหน้าอ่อนเยาว์
4.กลุ่มเป้าหมายหลัก
-กลุ่มวัยรุ่นสู่วัยสาว อายุ 14 - 25 ปี
5.Concept

-โฟมไม่มีฟอง
6.Support (เหตุผลรองรับConcept)
-ปัญหาวัยรุ่นเเก้ไขได้
7.Mood & Tone -Personality

มั่นใจ น่ารัก สดใส

มันๆ กวนๆ เท่ๆ


สดชื่น สดใส

8.Desired Response
1. สามารถทำให้ผลิตภัณฑ์เป็นที่รู้จักมากขึ้น สร้างฐานลูกค้าใหม่ให้เพิ่มจำนวนขึ้น
2. สามารถสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ผลิตภัณฑ์
3. สามารถส่งเสริมการขาย ให้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้

วันอังคารที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ครั้งที่1

ปช.416 คอมพิวเตอร์เพื่อนำเสนองานนิเทศศาสตร์
การออกเเบบสื่อเพื่อนำเสนอ
-ภาพนิ่ง ภาพถ่าย ทำให้ภาพคล้ายจริงก็ได้สมจริงโดยการตกแต่ง การออกแบบสื่อเพื่อการนำเสนอ "ภาพประกอบ"เน้นการทำพวกเส้นลาย พวกสามเหลี่ยมประกอบกัน เช่น การ์ตูน
สารสนเทศ คือ information สื่อข้อมูลทางอินเตอร์เน็ท
สื่อ IT ได้เเก่ 1. ภาพนิ่ง
2. ภาพเคลื่อนไหว พร้อมเสียง
จัดทำขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด
AMBIENT MEDIA คือ เป็นสื่อแผงในบรรยากาศ เป็นการโฆษณาสินค้าเเบบเเอบแฝง เเบบไม่โจ่งเเจ้ง เช่น มีปากกาด้ามหนึ่งมีลงข้อความโฆษณาสินค้า ในด้ามปากกา นั้นก็ถือว่าเป็น AMBIENT MEDIA เช่นกัน
Blogger ของผมคือ http://Ronnachai-cp.blogspot.com
Blogger ของอ.อ้น คือ http://akapan-cp.blogspot.com
-_-_-_++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++-_-_-_-_